วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

บทที่2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง

1.            ความปลอดภัยในการทำงานทางกายภาพ
1.1  ระดับเสียงในการทำงาน
การปฏิบัติงานในโรงพยาบาลนั้น  บางหน่วยงานจะมีปัญหาสภาพแวดล้อมที่เกิดจากมลภาวะทางเสียง   โรงพยาบาลขุนหาญจึงมีมาตรการในการป้องกันมลภาวะทางเสียงให้กับบุคลากรของโรงพยาบาล   ดังนี้
  โรคการได้ยินเสื่อมจากเสียงดัง
          เป็นภาวการณ์เสื่อมของประสาทหูจากการสัมผัสกับเสียงรบกวน ที่มีความดังมาก  อาการมีเสียงในหูคล้ายเสียงแมลงหวี่  การได้ยินค่อยๆลดลง  มักเป็น ข้าง  , กรณีกระทบเสียงดังทันทีอาจพบแก้วหูทะลุ  กรณีเรื้อรัง หูส่วนนอกและส่วนกลางปกติ
 

แนวทางการป้องกันความเสี่ยง
   -   แนะนำให้ทราบถึงอันตรายจากการได้รับเสียงเกินขนาด
   -   สนับสนุนให้มีการการใช้เครื่องป้องกันเสียงอย่างเหมาะสม จุกอุดหู ลดความดังลงได้8-30 เดซิเบล 
   -    รักษาสภาพของเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพที่ดี เพื่อลดภาวะเสียงดังเกินปกติ

  ระดับความดังของเสียงที่ยอมให้สัมผัสได้ตามกฎหมาย
ระดับเสียง(dBA)
ตัวอย่างสถานการณ์
ระยะเวลาสูงสุด เป็นชั่วโมง
85
เครื่องดูดฝุ่น
16
90
เสียงรถมอเตอร์ไซด์ ห่าง 25 ฟุต
8
95
4
100
รถไฟในระยะใกล้
2
105
1
110
เลื่อยไฟฟ้า
0.5
115
ดนตรีร็อค
0.25

                 
                  ตรวจสมรรถภาพของการได้ยิน ก่อนรับเข้าทำงาน และการตรวจซ้ำเป็นระยะในกลุ่มเสี่ยง
เพื่อหลีกเลี่ยงหูตึงที่เกิดขึ้นชั่วคราว ก่อนการตรวจทุกครั้งควรให้คนงานหยุดพักการทำงานที่มีเสียงดังเป็นเวลา 8-16 ชั่วโมง  สถานที่ตรวจต้องมีเสียงดังไม่เกิน 40 เดซิเบล  ในกรณีไม่มีตู้ตรวจ ตรวจซ้ำอีก เดือนในกรณีสงสัยเป็นภาวะหูตึงชั่วคราว
แนวทางการปฏิบัติเมื่อเกิดความเสี่ยง
-  ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดความเสี่ยง  ตามคู่มือการบริหารความเสี่ยง
-  เข้ารับการตรวจรักษาตามขั้นตอนการรับบริการ
-  เมื่อพบว่ามีความผิดปกติในระหว่างตั้งครรภ์หลังจากการเกิดความเสี่ยงให้รีบปรึกษาแพทย์แต่เริ่มมีอาการ  เช่น เด็กดิ้นน้อยลง มีเลือดออกจากปากช่องคลอด หรือความผิดปกติอื่นๆ
- แจ้งข้อมูลการเจ็บป่วย/อุบัติเหตุตามแบบรายงานการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุของโรงพยาบาล
เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา และพัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงนั้นๆ ต่อไป

1.2 ระดับความสว่างในการทำงาน
              การปฏิบัติงานในโรงพยาบาลนั้น  บางหน่วยงานจะมีปัญหาสภาพแวดล้อมที่เกิดจากปัญหาจากแสงสว่าง  อาทิเช่น สถานที่ทำงานมีระดับความเข้มของแสงสว่างไม่เพียงพอ โรงพยาบาลขุนหาญจึงมีมาตรการในการป้องกันปัญหาหรือผลกระทบจากแสงสว่างในสถานที่ปฏิบัติงานของบุคลากรโรงพยาบาล  ดังนี้

แนวทางการป้องกันความเสี่ยง
     การให้บุคลากรโรงพยาบาลได้เข้าใจถึงปัจจัยที่มีผลต่อความเสี่ยงจากแสงสว่าง   ดังนี้
-  ปัจจัยงาน เช่น ลักษณะผิวของวัตถุ ขนาดและความห่าง ความเร็วของวัตถุ สี
-  ปัจจัยคน เช่น ข้อจำกัดของตา อายุ การปรับสายตา การรับรู้ความลึกของภาพและการแยกสี
-  ลักษณะของแสงสว่าง เช่น ระดับความเข้มของแสงสว่าง องค์ประกอบของแสง
-  ขอบเขตของงาน เช่น ข้อจำกัดขอบเขตของสายตาบนชิ้นงาน ข้อจำกัดด้านท่าทาง







การให้บุคลากรของโรงพยาบาลเข้าใจถึงข้อกำหนดด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับแสงสว่าง  ดังนี้

ลักษณะงาน / สถานที่
มาตรฐานความเข้มแสง
แสงสว่างสำหรับทางเดิน 
20 ลักซ์
งานที่ไม่ต้องการความละเอียด-การขนย้ายงานประกอบชิ้นส่วน
50 ลักซ์
งานละเอียดเล็กน้อย
100 ลักซ์
งานละเอียดปานกลางการเย็บผ้า
200 ลักซ์
งานละเอียดสูง-การกลึง แต่งโลหะ
300 ลักซ์
งานละเอียดสูงเป็นพิเศษ
1000 ลักซ์

-   การตรวจสายตา ภาวะความผิดปกติทางสายตา ก่อนเข้าทำงาน
-   การตรวจสายตา เป็นระยะตามลักษณะงาน
-    การใช้อุปกรณ์ป้องกันตา และสายตาตามลักษณะงานที่จำเป็น

การปฏิบัติเมื่อเกิดความเสี่ยง
-    ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดความเสี่ยง  ตามคู่มือการบริหารความเสี่ยง
-    เข้ารับการตรวจรักษาตามขั้นตอนการรับบริการ
-    ปฐมพยาบาลเบื้องต้น และเข้ารับการตรวจรักษาตามขั้นตอนการรับบริการ
-    แจ้งข้อมูลการเจ็บป่วย/อุบัติเหตุตามแบบรายงานการเจ็บป่วยและอุบัติเหตุของโรงพยาบาล
เพื่อวิเคราะห์สถานการณ์ปัญหา และพัฒนาแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันภาวะเสี่ยงนั้นๆ ต่อไป

1.3 ความร้อนในการทำงาน
การปฏิบัติงานในโรงพยาบาลนั้น  บางหน่วยงานจะมีปัญหาสภาพแวดล้อมที่เกิดจากปัญหาจากความร้อนหรืออุณหภูมิในสถานที่ปฏิบัติงานสูงเกินไป   ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของบุคลากรที่ปฏิบัติงานในสถานที่ดังกล่าว  โรงพยาบาลขุนหาญจึงมีมาตรการในการป้องกันปัญหาหรือผลกระทบจากความร้อนหรืออุณหภูมิที่สูงกว่าค่าปกติในสถานที่ปฏิบัติงานของบุคลากรโรงพยาบาล  ดังนี้


แนวทางป้องกันความเสี่ยง
-  การป้องกันไม่ให้ความร้อนภายในร่างกายสูงขึ้นเกิน  0.6  องศาเซลเซียส
-   การจัดให้มีการระบายความร้อนหรือลดความร้อนที่เหมาะสมสำหรับสถานที่ทำงาน
ค่าจำกัดความร้อนที่ยอมให้บุคลากรสัมผัสความร้อนได้

ข้อกำหนดของการทำงาน
ปริมาณงาน
เบา
ปานกลาง
หนัก
ทำงานอย่างต่อเนื่อง
30.0 OC
26.7 OC
25.0 OC
ทำงาน 75 % พัก 25 %ในแต่ละชั่วโมง
30.6 OC
28.0 OC
25.9 OC
ทำงาน 50 % พัก 50 %ในแต่ละชั่วโมง
31.4 OC
29.4 OC
27.9 OC
ทำงาน 25 % พัก 75 %ในแต่ละชั่วโมง
32.4 OC
31.1 OC
30.0 OC

 การใช้อุปกรณ์ป้องกันความร้อนที่เหมาะสมกับลักษณะงาน
-  การเตรียมอุปกรณ์ดับเพลิง อุปกรณ์ช่วยชีวิต ไว้ในบริเวณที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างทันท่วงที  และมีการกำหนดแผนอัคคีภัยภายในหน่วยงานและโรงพยาบาล
ให้คำแนะนำในการสังเกตอาการผิดปกติของบุคลากร  เช่น  เป็นลมหน้ามืด  ร่างกายร้อนผิดปกติ  ชักจากความร้อน
     - ตรวจสุขภาพก่อนทำงาน เพื่อหาโรคประจำตัวที่มีโอกาสเสี่ยงต่อปัญหาจากความร้อน 
    -  ตรวจร่างกายประจำปี เพื่อหาโรคที่เกิดในระหว่างปฏิบัติงาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น