ความสำคัญของโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล
กลุ่มโรคนี้เพิ่งได้รับความสนใจและได้ศึกษากันไม่นานมานี้
เนื่องจากกลุ่มโรคนี้มีผลเสียหายหลายประการดังนี้
1. ผู้ป่วยมีอัตราตาย และทุพพลภาพมากขึ้น
โดยทั่วไปกลุ่มโรคนี้มีอัตราตายประมาณร้อยละ 3 ถึง 7.5 ประเทศไทยมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลประมาณปีละหนึ่งล้านคน
จะมีผู้ป่วยด้วยโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลปีละหนึ่งแสนคน (ร้อยละ 10) และมีผู้ที่ถึงแก่กรรมด้วยกลุ่มโรคนี้ปีละสามพันคนถึงเจ็ดพันห้าร้อยคน
นอกจากนี้ผู้ป่วยที่ตายในโรงพยาบาลพบว่าร้อยละ 30 มีการติดเชื้อที่รุนแรง เช่น
ปอดอักเสบ, ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และการติดเชื้อในเลือด
นอกจากกลุ่มโรคนี้จะทำให้ตายแล้ว
ยังมีการศึกษาที่ยืนยันว่าโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลเป็นสาเหตุร่วม (contributary cause) ที่ทำให้ผู้ป่วยตาย
และที่สำคัญมากกว่านี้ก็คือ กลุ่มโรคนี้เป็นสาเหตุการตายของผู้ป่วยที่มีพยากรณ์โรคดีตอนที่เริ่มเข้ามาอยู่โรงพยาบาล
แต่สำหรับ ผู้ป่วยที่มีพยากรณ์โรคเลวหรือเป็นโรคใกล้ตาย (terminal illness)
แล้ว กลุ่มโรคนี้ไม่ทำให้อัตราตายเปลี่ยนแปลง
ดังนั้นการป้องกันเพื่อลดอัตราโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล
จึงเป็นการลดอัตราตายได้โดยตรง
2. ผู้ป่วยต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้น
ได้มีการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่มีโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลจะต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้นเฉลี่ย
4 วัน
กลุ่มผู้ป่วยที่มีการติดเชื้อที่แผลผ่าตัดต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้นอีกเกิน 10 วัน ทำให้มีผลตามมาดังต่อไปนี้
2.1 โรงพยาบาลรับผู้ป่วยได้น้อยลง
ผู้ป่วยต้องคอยเตียงนานขึ้น บริการที่ไม่เพียงพออยู่แล้วจะยิ่งเลวร้ายลงอีก
2.2
โรงพยาบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้นในการรักษากลุ่มโรคนี้ ยกตัวอย่าง
โรงพยาบาลศิริราชรับผู้ป่วยในปีละประมาณ 50,000 ราย
ถ้ามีอัตราการติดเชื้อในโรงพยาบาลร้อยละ 9
จะมีผู้ป่วยติดเชื้อนี้ปีละ 4,500 ราย
จะเสียเตียงสำหรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ 4,500 X 4 = 18,000
เตียง-วัน ถ้าค่าใช้จ่ายแต่ละเตียงต่อวันไม่รวมค่าตรวจ,รักษา
= 700 บาท ค่าตรวจรักษาเฉลี่ยรายละ 300
บาทต่อวัน รวมค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น = 1,000 บาทต่อเตียงต่อวัน
จะสิ้นเปลืองเงินปีละ 18
ล้านบาทและคาดคะเนว่าทั้งประเทศจะสิ้นเปลืองเงินสำหรับรักษากลุ่มโรคนี้ = 1,000,000
X 9/10 X 4 X 1,000 = 360 ล้านบาทต่อปี
ในประเทศสหรัฐอเมริกามีการศึกษาพบว่า
โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลทำให้เกิดการสูญเสียถึงปีละ 2
พันล้านดอลล่าร์ (ห้าหมื่นสี่พันล้านบาท)
2.3 ผู้ป่วยต้องทนทุกข์ทรมานเพิ่มขึ้นจากโรคเดิม
2.4 ผู้ป่วยต้องหยุดงานนานขึ้น
2.5 การสูญเสียอย่างอื่น ๆ ที่ประเมินได้ยาก เช่น
ญาติต้องมาเยี่ยมซึ่งต้องสิ้นค่าใช้จ่าย, ค่าเบี้ยประกันชีวิตเพิ่มขึ้น
ฯลฯ
3. บุคลากรทางการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย
อาจจะได้รับเชื้อจากผู้ป่วย
4. มีการแพร่เชื้อที่ดื้อยาในโรงพยาบาล
โรคติดเชื้อในโรงพยาบาลโดยมากเกิดจากเชื้อที่ดื้อต่อยาต้านจุลชีพ
และผู้ป่วยกลุ่มนี้เป็นแหล่งสำคัญของเชื้อที่ดื้อยาที่จะแพร่สู่ผู้ป่วยอื่น
ทำให้การรักษายากขึ้น มีอัตราตายสูง
5. มีการแพร่เชื้อเข้าสู่ชุมชน
ถ้าผู้ป่วยนั้นยังมีการติดเชื้ออยู่ขณะกลับบ้าน
หรือเริ่มมีอาการของโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลหลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ก็อาจจะเป็นผู้แพร่เชื้อไปสู่บุคคลใกล้ชิดได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น